Please wait...

ทำความรู้จักกับผ้ายืด

ทำความรู้จักกับผ้ายืด

04 Feb 2021
Cotton/ Polyester/ TC/ CVC และ Drytech คืออะไร?
1.  100% Cotton คือ ผ้าที่ทอจากเส้นใยฝ้ายบริสุทธิ์ ซึ่งแบ่งเกรดหรือคุณภาพได้ ดังนี้

1.1)   คุณภาพของเส้นใยที่นำมาใช้ทอ จะเป็นตัวกำหนดความเรียบเนียนและคุณภาพของเนื้อผ้า

100% Cotton OE

    ลักษณะและคุณภาพ
- ทอจากเส้นใยที่ไม่ผ่านกระบวนการคัดคุณภาพ เส้นใยจึงสั้นเมื่อนำมาปั่นต่อกัน จึงได้เส้นด้ายทอมีลักษณะเป็นปมเล็กๆ
- เนื้อผ้าที่ทอออกมาจึงมีผิวสัมผัสที่ค่อนข้างกระด้าง ไม่เรียบเนียน
- ผ้า Cotton ประเภทนี้มักมีเนื้อหนา สาเหตุเพราะเส้นใยสั้นมีความคงทนน้อย จึงต้องทำเป็นเส้นหนาเพื่อเพิ่มความคงทนให้กับเนื้อผ้า
    ข้อดี
- ระบายอากาศได้ดีกว่าผ้าใยผสมและผ้าใยสังเคราะห์
- ประหยัดงบประมาณเนื่องจากมีราคาต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับ Cotton เกรดอื่นๆ
- เหมาะสำหรับสวมใส่ในงานเฉพาะกิจ ที่ไม่จำเป็นต้องใส่ซ้ำบ่อยๆ เช่น เสื้อ staff สำหรับงาน event หรือ concert
- เหมาะสำหรับเสื้อที่ต้องการ look หนาๆ เซอร์ๆ เช่น เสื้อ oversize หรือเสื้อทรง hip hop
    ข้อเสีย
- มีความทนทานน้อยอาจเสียทรง หรือหดหลังจากการซัก
- หลังจากการซักประมาณ 3-4 ครั้ง ผ้าจะขึ้นขน และดูเก่าเร็ว

100% Cotton Semi Comb (หรือเรียกสั้นๆ ว่า Cotton Semi)
     ลักษณะและคุณภาพ
- ทอจากเส้นด้ายที่ได้จากฝ้ายเส้นใยสั้นและยาวนำมาปั่นผสมกัน และผ่านกระบวนการสางเส้นใยด้วยเครื่องจักร
- เนื้อผ้าที่ทอออกมาจึงมีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
     ข้อดี
- ราคาและคุณภาพปานกลาง จึงเป็นที่นิยมมากที่สุด
- ระบายอากาศได้ดีกว่าผ้าใยผสมและผ้าใยสังเคราะห์
- เหมาะสำหรับการสวมใส่ในงานเฉพาะกิจ และใส่ลำลองทั่วๆ ไป
     ข้อเสีย
- อาจเสียทรง หรือหดหลังจากการซัก โดยอัตราการหดของเสื้อที่เป็นมาตรฐานในการผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 7% (0.5-1 นิ้ว)

100% Cotton Fully Comb (หรือเรียกสั้นๆ ว่า 100% Cotton Comb)
    ลักษณะและคุณภาพ
- ทอจากเส้นด้ายที่มาจากฝ้ายเส้นใยยาว ซึ่งผ่านกระบวนการหวีเส้นใยด้วยเครื่องจักรที่ละเอียดกว่าการสาง จึงสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยได้มากกว่า
- เนื้อผ้าที่ทอออกมาจึงให้สัมผัสที่เรียบ และเนียนนุ่มกว่าผ้าอีก 2 ประเภทที่กล่าวมา
    ข้อดี
- มีความทนทาน นุ่มและเรียบเนียน
- ระบายอากาศได้ดีกว่าผ้าใยผสมและผ้าใยสังเคราะห์
- เหมาะสำหรับสวมใส่ในงานที่ไม่เป็นทางการ แต่ต้องการเน้นคุณภาพหรือภาพลักษณ์ของสินค้า
    ข้อเสีย
- ต้นทุนสูงกว่าผ้า 2  ประเภทบน

1.2)   ขนาดของเส้นใยที่นำมาใช้ทอ จะเป็นตัวกำหนดความหนา-บางของเนื้อผ้า โดยตัวเลข No.จะเป็นตัวบอกขนาดของเส้นด้ายที่นำมาใช้ทอ ตัวเลขยิ่งสูงเส้นด้ายยิ่งมีขนาดเล็ก ผ้าที่ทอออกมาจะมีความบางและน้ำหนักเบากว่า ซึ่งน้ำหนักของผ้ายืดมีผลต่อราคาของเสื้อ เนื่องจากผ้ายืดคิดราคาผ้าตามน้ำหนัก ขนาดเส้นด้าย Cotton ที่นิยมใช้โดยทั่วไปในประเทศไทยมี 3 ขนาดได้แก่


2.  100% Polyester คือ ผ้าใยสังเคราะห์ ซึ่งได้จากกระบวนการกลั่นปิโตรเคมี ในป้จจุบันมีการนำเอาขวดพลาสติกใสประเภทที่ 1 หรือขวด PET มา recycle เป็นเส้นใยนำกลับมาทอเป็นผ้าชนิดนี้ได้ด้วย เส้นใย Polyester นั้นสามารถนำมาทอเป็นผ้าได้หลายรูปแบบ โดยปรับเปลี่ยนลักษณะ ขนาดของเส้นใย และโครงสร้างการทอผ้าให้เป็นแบบต่างๆ อาทิ
  • ผ้า TK สามารถนำมาทอให้มีโครงสร้างและ texture คล้ายกับผ้า Cotton แต่ราคาถูกกว่า
  • ผ้า Micro Poly ที่ให้ผิวสัมผัสเรียบลื่น บางเบา นิยมนำมาทำเป็นเสื้อออกกำลังกาย เสื้อจักรยาน หรือเสื้อวิ่งมาราธอน
  • ผ้า IB ที่นิยมนำมาผลิตเสื้อแขนยาวสำหรับทีมช่างก่อสร้าง หรือเสื้อแถมกับสินค้าต่างๆ
นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น Polyester ยังสามารถนำมาทำเป็นผ้าได้อีกมากมายหลายประเภท มีทั้งผ้าที่ราคาย่อมเยา และผ้านวัตกรรมที่มีราคาสูง ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผ้าและเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต
ข้อดีของผ้าชนิดนี้ คือ ไม่หด ไม่ย้วย สีไม่ซีดจางหลังซัก เนื้อผ้ามีความเงามัน เหมาะสำหรับงานพิมพ์ Sublimation ซึ่งสามารถพิมพ์ภาพเหมือน หรือภาพการ์ตูนสีสันสดใสได้ไม่จำกัดสี
ข้อเสีย คือ ไม่ระบายอากาศ ถ้าใส่ในที่อากาศร้อนจะรู้สึกอบอ้าว เหงื่อชุ่ม ไม่สบายตัว
 
3.  TC คือ ผ้าที่ทอจากเส้นใยผสมระหว่าง Cotton และ Polyester โดยสัดส่วนของ Polyester จะมากกว่า Cotton ซึ่งโดยทั่วไปมักจะมีอัตราส่วนอยู่ที่ 65:35 เปอร์เซ็นต์
ข้อดี คือ มีราคาถูกกว่า ง่ายต่อการรีด มีความคงรูป ไม่ยับง่าย สีไม่ซีดจาง และสามารถควบคุมอัตราการหดตัวได้ดีกว่าผ้า Cotton
ข้อเสีย คือ ดูดซับความชื้น และระบายอากาศได้ไม่ดีเท่า Cotton แต่ดีกว่าผ้า TK

4.  CVC คือ ผ้าที่ทอจากเส้นใยผสมระหว่าง Cotton และ Polyester เช่นเดียวกับ TC แต่สัดส่วนของ Cotton จะมีมากกว่า Polyester
ข้อดี คือ ดูดซับความชื้น และระบายอากาศได้ดีกว่า TC เนื่องจากมีสัดส่วนของ Cotton มากกว่า จึงสวมใส่สบายให้ความรู้สึกสัมผัสใกล้เคียงกับ Cotton แต่ราคาไม่สูงมาก
ข้อเสีย คือ มีอัตราการหดตัวมากกว่าผ้า TC และสีซีดไวกว่า เนื่องจากมีสัดส่วนของ Cotton มากกว่า
 
5.  Drytech คือ ผ้านวัตกรรมใหม่ที่ผสมผสานเอาคุณสมบัติของเส้นใย Cotton และ Micro-Fibered Polyester ซึ่งโครงสร้างผ้าจะทอเป็น 2 ชั้น โดยที่ด้านในของผ้าจะทอด้วยเส้นด้าย Micro-Fibered Polyester ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับเหงื่อจากร่างกาย และส่งผ่านไปยังผิวด้านนอกของผ้าที่ทอด้วยเส้นด้าย Cotton ซึ่งมีคุณสมบัติในการถ่ายเทอากาศได้ดี
ข้อดี คือ เนื้อผ้าคงทน ไม่หด ไม่ย้วย ไม่ขึ้นขน ดูดซับความชื้น และระบายอากาศได้ดีเยี่ยม จึงรู้สึกแห้งสบายเวลาสวมใส่ นอกจากนี้ยังซักตากแห้งไว และไม่ยับมาก
ข้อเสีย คือ ราคาค่อนข้างสูง และเนื่องจากเนื้อผ้าด้านนอกเป็น Cotton สีจึงซีดจางได้ง่าย เวลาตากผ้าจึงควรกลับด้านในออกเสมอ และไม่ควรตากในแดดจ้า เพื่อให้สีสดใสนานยิ่งขึ้น